ในยุคดิจิทัลที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เด็กและวัยรุ่นใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter, TikTok และ YouTube ในการติดต่อสื่อสารและแสดงออกถึงตัวตน
แม้ว่า คาสิโนดานัง การใช้งานโซเชียลมีเดียจะมีข้อดี เช่น การเชื่อมต่อกับเพื่อน การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และการสร้างสรรค์คอนเทนต์ แต่ก็มีอีกด้านหนึ่งที่เป็น “Toxic Social Media” หรือโซเชียลมีเดียที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อจิตใจและอารมณ์ของลูกหลานโดยไม่รู้ตัว
Toxic Social Media คืออะไร?
Toxic Social Media หมายถึงการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจิต เช่น
– Cyberbullying (การกลั่นแกล้งออนไลน์) – คำพูดรุนแรง การโจมตีส่วนตัว หรือการล้อเลียนผ่านคอมเมนต์และข้อความ
– Toxic Comparison (การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมากเกินไป) – การเห็นชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบของคนอื่นอาจทำให้รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า
– Cancel Culture (วัฒนธรรมการคว่ำบาตร) – สังคมออนไลน์สามารถตัดสินและรุมตำหนิใครบางคนอย่างรุนแรงโดยไม่ให้โอกาสชี้แจง
– Fake News & Misinformation (ข่าวปลอมและข้อมูลที่ผิดพลาด) – การแพร่กระจายของข่าวลวงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความเครียด
– Trolls & Hate Speech (คำพูดแสดงความเกลียดชังและพฤติกรรมป่วนอินเทอร์เน็ต) – กลุ่มคนที่ตั้งใจสร้างความขัดแย้งและใช้คำพูดรุนแรงต่อผู้อื่น
ผลกระทบต่อจิตใจของเด็กและวัยรุ่น
Toxic Social Media สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจเด็กและวัยรุ่นในหลายรูปแบบ เช่น
- ลดความมั่นใจในตัวเอง – การเปรียบเทียบตัวเองกับดาราหรืออินฟลูเอนเซอร์ที่ดูสมบูรณ์แบบอาจทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ
- เพิ่มความวิตกกังวลและซึมเศร้า – คำพูดเชิงลบและการถูกโจมตีทางออนไลน์สามารถทำให้เด็กมีภาวะวิตกกังวลและรู้สึกโดดเดี่ยว
- มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือกดดันตัวเอง – เด็กที่ตกเป็นเป้าหมายของ Cyberbullying อาจตอบโต้ด้วยความรุนแรงหรือเก็บกดจนเกิดปัญหาสุขภาพจิต
- ขาดทักษะในการเข้าสังคมจริง – การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้เด็กไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในโลกแห่งความจริง
วิธีป้องกันและดูแลลูกจาก Toxic Social Media
พ่อแม่และผู้ปกครองสามารถช่วยให้ลูกใช้โซเชียลมีเดียอย่างปลอดภัยโดย
- สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้าง – พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเจอในโลกออนไลน์ ให้ลูกกล้าเล่าความรู้สึกโดยไม่กลัวถูกตำหนิ
- สอนให้รู้เท่าทันโซเชียลมีเดีย – อธิบายเกี่ยวกับข่าวปลอม ภาพลวงตา และการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นที่ไม่เป็นจริง
- ตั้งเวลาจำกัดในการใช้โซเชียลมีเดีย – ควรกำหนดเวลาการใช้โทรศัพท์และส่งเสริมให้ลูกมีกิจกรรมออฟไลน์ เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรก
- ตรวจสอบความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม – ใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น จำกัดการแสดงผลคอมเมนต์หรือบล็อกบัญชีที่เป็นอันตราย
- ปลูกฝังให้ลูกมีวุฒิภาวะในการใช้อินเทอร์เน็ต – สอนให้คิดก่อนโพสต์ รู้จักการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว และไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า
- เป็นตัวอย่างที่ดี – ผู้ปกครองควรใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างมีสติ ไม่หมกมุ่นกับออนไลน์มากเกินไป และใช้โซเชียลมีเดียในทางที่สร้างสรรค์