พิธีปิดฮู้เจ้าพ่อเขาใหญ่   เกาะสีชังจังหวัดชลบุรี 

          สำหรับใครที่เคยมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่เกาะสีชังจังหวัดชลบุรี   ในช่วงเทศกาลใกล้กับวันตรุษจีนในแต่ละปีจะเห็นได้ว่าที่เกาะสีชัง

นั้นจะมีประเพณีหนึ่งที่ทำขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยคนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนหรือแม้แต่สิงคโปร์รวมถึงไต้หวันและฮ่องกงมาเลเซียก็จะมาร่วมกิจกรรมประเพณีนี้ด้วยเช่นเดียวกันโดยประเพณีดังกล่าวนั้นก็คือพิธีปิดฮู้เจ้าพ่อเขาใหญ่นั่นเอง 

    สำหรับพิธีนี้มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณแล้วและจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังทำพิธีนี้กันอยู่ซึ่งพิธีนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในยุคที่ชาวจีนมาค้าขายกับประเทศไทยโดยมีการมาค้าขายผ่านทางเกาะสีชังเนื่องจากว่าบริเวณเกาะสีชังนั้นมีภูมิประเทศที่ดีเหมาะสมแก่การเดินเรือมาขนถ่ายสินค้าขึ้นบนบกดังนั้นถึงแม้ว่าที่เกาะสีชังจะไม่ใช่ท่าเทียบเรือแต่ก็มีชาวจีนชาวต่างชาติมาค้าขายกันอยู่บ่อยครั้งทำให้เกาะสีชังนั้นเป็นที่คึกคักเรียกได้ว่าเป็นย่านการค้าขายที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไทยมาในตั้งแต่สมัยอดีตเลยก็ว่าได้

         อย่างไรก็ตามมีการเล่าขานมาตั้งมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่ามีพ่อค้าชาวจีนล่องเรือสำเภามาตามทะเลแล้วมาค้าขายที่บริเวณเกาะสีชัง

อยู่มาวันหนึ่งเป็นช่วงเวลาพบค่ำพ่อค้าชาวจีนคนดังกล่าวได้มีการล่องเรือผ่านไปแถวบริเวณภูเขาหัวเกาะสีชังแล้วเห็นว่าทางบริเวณดังกล่าวนั้นมีแสงระยิบระยับสว่างไสวงดงามตาอยู่ด้วยความสงสัยเขาจึงได้เข้าไปสำรวจดูก็พบว่าตรงจุดที่เขาเห็นแสงระยิบระยับนั้นเป็นถ้ำขนาดใหญ่เมื่อเดินเข้าไปภายในถ้ำก็พบหินรูปร่างแปลกประหลาด  สมัคร sbobet โดยตรง    มีลักษณะคล้ายกับคนหรือพระพุทธรูปซึ่งปัจจุบันผู้คนเชื่อกันว่านั่นคือเห็นรูปของเจ้าพ่อเขาใหญ่และปัจจุบันบริเวณที่เจอท่านนั้นก็คือเขาคยาศิระนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามตามตำนานเล่ามาว่าหลังจากพ่อค้าชาวจีนเห็นดังนั้นก็ได้มีการขอพรนำเข้าของมาเซ่นไหว้และร้องขอให้การค้าขายในประสบความสำเร็จร่ำรวยเงินทองซึ่งหลังจากที่ขอไปแล้วพบว่าประสบความสำเร็จตามที่ขอทำให้ชื่อเสียงของเจ้าพ่อเขาใหญ่นะโด่งดังมีผู้คนมาขอพรกันเป็นจำนวนมากและเกิดเป็นแรงศรัทธาอย่างมากจนในที่สุดก็มีลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือเจ้าพ่อเขาใหญ่จนกลายมาเป็นว่าลูกศิษย์นั้นได้รวมตัวกันสร้างศาลขึ้นมาตรงบริเวณหน้าปากถ้ำโดยศาลนี้ถูกสร้างขึ้นมาช่วงประมาณปีพ.ศ 2435 

        หลังจากนั้นในทุกๆปีก่อนเทศกาลวันตรุษจีนประมาณ 2 สัปดาห์บรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็จะมารวมตัวกันที่เกาะสีชังแห่งนี้และมีการจัดเทศกาลไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นซึ่งจะมีผู้คนมาสักการะบูชาเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นจำนวนมากรวมทั้งนักท่องเที่ยวก็เดินทางมาเที่ยวและมากราบไหว้ขอพรเจ้าพ่อเขาใหญ่เช่นเดียวกัน

Continue Reading

ตำนานเสาหลักเมืองสร้างมาจากมนุษย์จริงหรือไม่?

ตำนานเสาหลักเมือง ซึ่งเราได้ไปเจาะลึกลงไปหาข้อมูลลงลึกไปเรื่อยๆว่ามันยังมีหลักฐานมันยังมีอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการตอกเสาเข็มหรือการตอกมนุษย์เหล่านี้อีกหรือไม่ปรากฏว่ามีและหลักฐานตรงนี้เราขอบอกเลยว่าเป็นหลักฐานทางหน้าประวัติศาสตร์ที่เขาได้มีการบันทึกเอาไว้เป็นรายลักอักษรในอดีตสมัยก่อนที่ได้มีการยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่านี่เป้นของจริงด้วย

โดยหลักฐานชิ้นนั้นนั่นก็คือบักทึกของ Uan Uliets Siam หรือบันทึกของนายวัน วลิตนั่นเองและได้มีหลายๆคนได้ตั้งคำถามว่านายวัน วลิตคือใครเขาเป็นใครถ้าจะให้อธิบายให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ ฝรั่งที่ได้เข้ามาในสมัยพระเจ้าปราสาททองในยุคนั้นที่ได้เขามาทำการศึกษาเรื่องราวต่างๆเข้ามาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างๆนั่นเอง

นอกจากนี้ในการบันทึกข้อมูลของนายวัน วลิตเขาได้บันทึกเอาไว้ว่าในสมัยนั้นที่พระเจ้าปราสาททองปกครองแผ่นดินเมืองอยู่เขาได้มีความคิดที่จะขยายอาณาเขตออกไปและได้มีความิดที่จะบูรณะสิ่งก่อสร้างเก่าๆขึ้นมาพร้อมกับสิ่งก่อสร้างใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นทั้งวัดไม่ว่าจะเป็นปราสาทบ้านเมืองต่างๆนานามากมาย

เนื่องจากนี้ในการที่จะสร้างวัดสร้างโบสถ์หรืออะไรก็แล้วแต่มันจะมีเรื่องของการสร้างเสาหลักของโรคสร้างนั่นอยู่และแน่นอนว่าการสร้างเสาหลักตรงนั้นมันมีเรื่องของความเชื่อของเสาหลักเมืองขึ้นมาเขาก็จะมีการทำพิธีที่คล้ายๆกับเสาหลักเมืองนั่นก็คือเขาจะเกณฑ์คนเข้ามาเพื่อที่จะสังเวยชีวิตเพื่อที่จะสร้างเสาหลักนั่นๆ

ซึ่งในการสร้างสถานที่หนึ่งขึ้นมาอย่างน้อยเขาจะต้องใช้เสาหลักขั่นต่ำ4เสาขึ้นไปและ4เสานี้แน่นอนว่าจะต้องมีการสังเวยชีวิต4คนแน่นอนแต่พระเจ้าปราสาททองเขาไม่ได้ที่จะสร้างสถานที่เดียวแต่เขาต้องการที่จะสร้างเมืองทั้งเมืองหรือต้องการที่จะบูรณะสถานที่เก่าๆให้เฟื่องฟูขึ้นมา

เพราะฉะนั้นแล้วแน่นอนว่ามันจะต้องใช้จำนวนคนไม่ต่ำกว่าหลักร้อยคนหรืออาจจะมากกว่านั้นแน่นอนและเรื่องราวความน่ากลัวตรงนี้มันก็ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้นเพราะว่าในยุคความเชื่อของพระเจ้าปราสาททองมันได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงพิธีกรรมนั่นก็คือการปกติตามบันทึกเขาจะใช้ชื่อว่า นายอิน จันทร์ มั่น คง เขาได้เปลี่ยนตรงนี้กลายม้เป็นผู้หญิงที่เขากำลังท้องลูกอยู่ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้แทน

ดังนั้นเขาได้มีความเชื่อกันว่าผู้หญิงที่กำลังท้องอยู่นั้นเมื่อถูกบูชายัญนำไปเป็นวิญญาณแล้วนั้นวิญญาณเหล่านั้นจะมีพลังมากกว่าวิญญาณโดยทั่วไปและจะมีความจงรักภักดีมากกว่าคนทั่วไปนั่นเองและตรงนี้เมื่อได้ฟังดูแล้วมันอาจจะไม่มีเหตุผลเท่าไรแต่อย่างไรก็ตามในความเชื่อในอดีตมันก็คือในอดีต

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  สมัคร sbobet โดยตรง

Continue Reading

ตำนานอุโมงค์ ผีสิง คิโยาทากิ 

        อุโมงค์ ผีสิง คิโยาทากิ  เป็นอุโมงค์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความหลอน ซึ่งมีการเล่าลือกันมาปากต่อปากตั้งแต่ช่วงในสมัยปีคริสต์ศักราช 1998 โดย อันที่จริงแล้วอุโมงค์แห่งนี้นั้นสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1929 แล้ว

             และนับตั้งแต่ที่มีการสร้างอุโมงค์แห่งนี้มาทุกคนต่างก็พากันหวาดกลัวไม่ค่อยอยากจะเดินทางมาใช้อุโมงค์แห่งนี้กันมากนักยกเว้นบางคนที่มีความจำเป็นจริงๆที่จะต้องขับรถผ่านเส้นทางนี้จึงจะเข้าไปใช้อุโมงค์นี้โดยในช่วงเวลาแรกๆนั้นอุโมงค์แห่งนี้นั้นผู้คนหวาดกลัวทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรให้น่ากลัวเลยแต่ทุกคนก็กลัวกันเนื่องจากว่าบริเวณที่สร้างอุโมงค์แห่งนี้นั้นเคยเป็นลานประหารชีวิตมาก่อน

            แน่นอนว่าที่นี่เคยมีคนตายมานับไม่ถ้วนดังนั้นอุโมงค์แห่งนี้จึงค่อนข้างที่จะเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนที่จะต้องขับรถมาใช้บริการในช่วงเวลายามค่ำคืนนั้นเองเพราะต่างก็กลัวกันว่าหากขับมาแล้วอาจจะเจอกับวิญญาณของคนที่เคยถูกประหารตรงลานประหารแห่งนี้ก็เป็นไปได้แต่อย่างไรก็ตามความน่ากลัวไม่ได้เกิดขึ้นช่วงเวลานี้แต่เกิดขึ้นช่วงหลังปี ค.ศ.  1998  มากกว่า

             เพราะความน่ากลัวนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้มาฆ่าตัวตายที่บริเวณใกล้กับ อุโมงค์ ผีสิง คิโยาทากิ  แห่งนี้  และนับตั้งแต่มีข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวฆ่าตัวตายเผยแพร่ออกไปก็ทำให้ผู้คนที่มาใช้บริการอุโมงค์แห่งนี้ในช่วงเวลายามค่ำคืนนั้นมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเล่าเวลาที่จะมีการใช้อุโมงค์แห่งนี้มักจะมีคนเห็นวิญญาณของหญิงสาวที่มาฆ่าตัวตายแห่งนี้กันเป็นประจำ

           หรือบางคนนั้นก็จะเห็นหญิงสาวนั้นยืนอยู่ภายในอุโมงค์ตรงจุดที่เธอฆ่าตัวตายหรือบางคนนั้นก็อาจจะเห็นเธอจากกระจกส่องหลังของรถแล้วแต่ใครว่าจะเห็นแบบไหนและแน่นอนว่ายังมีเรื่องเล่าเพิ่มเติมอีกด้วยว่าหากมาใช้บริการอุโมงค์แห่งนี้ผู้ที่ขับรถมานั้นก็เห็นว่าไปในอุโมงค์เป็นสีเขียวอย่าเพิ่งขับรถเข้าไปภายในอุโมงค์อย่างเด็ดขาดควรจะปล่อยให้ไฟเปลี่ยนจากสีเขียวและมาเป็นสีแดงก่อน

            หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นสีเขียวใหม่อีกครั้งหนึ่งซึ่งถ้าไฟเป็นสีเขียวครั้งที่ 2 เมื่อไหร่สามารถที่จะขับรถเข้าไปในอุโมงค์ได้ทันทีแต่ถ้าใครที่ไฟเป็นสีเขียวในครั้งแรกแล้วรีบขับรถเข้าไปในอุโมงค์แล้วแล้วก็คุณจะโชคดีได้เจอกับผีสาวในอุโมงค์แห่งนี้นั่นเอง  โดยคนญี่ปุ่นเชื่อว่าการที่ไฟในอุโมงค์เป็นสีเขียวตอนแรกนั้น เป็นไฟที่ผีสาวเปิดขึ้นเพื่อต้องการหลอกล่อให้คนขับรถเข้าไปภายในอุโมงค์

 

สนับสนุนโดย  สมัคร sbobet โดยตรง

Continue Reading