ใช้แสงเป็นการเล่าเรื่องของนางแบบได้มากขึ้น

ใช้แสงเป็นการเล่าเรื่องของนางแบบ

ใช้แสงเป็นการเล่าเรื่องของนางแบบได้มากขึ้น หนึ่งในเทคนิคการถ่ายรูปกับกระจกให้น่าสนใจ

ใช้แสงเป็นการเล่าเรื่องของนางแบบ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่คล้ายกับเรื่องใช้ข้อดีของการที่ไม่มีสีมารบกวนสายตาเช่นเดิมแหละ แต่กเราจะลงลึกไปในการใช้เทคนิคของการเล่นแสง เพราะว่าการใช้แสงในภาพขาวดำนั้น มีความหมายและอารมณ์ที่แตกต่างกับภาพสีที่ใช้แสงและเงาเช่นกัน การใช้แสงเป็นองค์ประกอบหลักในการเล่าเรื่องนั้น ในภาพสีและภาพขาวดำ ต้องบอกเลยว่าได้ผลลัพท์ที่คนละเรื่องได้เลยล่ะ อย่างการใช้แสงหม่นในภาพขาวดำ ก็ให้อารมณ์ของความเข้มแข็งก็ได้ แต่ถ้าเป็นภาพสีเมื่อไหร่ สีจะมีผลอย่างมาก สีเขียวหม่น สีแดงหม่น สีเหลืองหม่น ก็ให้ความหมายที่ต่างกัน ดังนั้นถ้าจะใช้ภาพสีเล่าเรื่องก็จะเป็นเรื่องลำบากกว่าหน่อยแหละ ภาพขาวดำจะเล่นเรื่องนี้ได้ง่ายกว่า และตรงกว่าอย่างมาก

แสงนั้น มีความแตกต่างของลักษณ์แสงต่างกันไปด้วยเช่นกัน แสงแข็ง แสงอ่อน แสงนุ่ม ก็ย่อมให้อารมณ์ที่ต่างกัน การที่เล่นกับแสงนั้นก็เลยเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่เราจัดแสงทามทิศทางต่างๆ ไม่ต้องสนใจเรื่องสีมาก จะเป็นแสงขาวหรือแสงเหลือง ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมาก เพียงแต่เราต้องหามุมของแสง และฉากที่แสงกระทบ ไล่เฉดให้ได้ตามโจทย์ของเรา เพียงเท่านี้ก็ได้ภาพที่สื่อถึงเรื่องราวได้เลย ลองได้จากการจัดแสงทิศทางต่างๆของตัวแบบ โดยให้ตัวแบบนั้นอยู่เฉยๆก็ได้ จะเห็นได้ว่า ความเข้มของแสง

และทิศทางของแสงนั้นจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดความหายของภาพที่แตกต่างกันไป การสาดเข้าด้านข้างหม่นๆเปรียบเสมือนเรื่องราวที่มีความลึกลับ แต่ถ้าแสงด้านข้านเปลี่ยนเป็นแสงเข้มก็จะกลายเป็นภาพที่สื่อถึงความขรึม เด็ดเดี่ยว อะไรทำนองนี้ ซึ่งการเล่าเรื่องนั้นก็คือการที่ช่างภาพใช้เทคนิคของแสงเข้าช่วยนั้นเอง นี่คือความสุดยอดของแสงที่ใช้ในการเล่าเรื่อง และนางแบบที่สร้างอารมณ์ร่วมกับสภาพแสงนั้นได้ ก็จะยิ่งการเล่าเรื่องนั้นชัดเจนมากขึ้น นี่คือข้อได้เปรียบของการเล่นแสงในภาพขาวดำ ที่ทำได้ดีกว่าภาพสีอย่างมาก จะเรียกว่าดีกว่าก็ไม่ถูกมากหรอก แต่ว่าเป็นการเล่าเรื่องโดยตรง ถ้าเป็นภาพสีมันจะเป็นการบอกถึงสิ่งอื่นมากกว่าการเล่าเรื่อง

การจะเล่นแสงเงาแบบนี้ได้ง่ายๆ เราก็มีเพียงแหล่งแสง ถ้าเป็นแหล่งแสงธรรมดา พวกหลอดไฟ ก็จะเล่นความเข้มแสงได้ยากสักหน่อย แต่ถ้ามีแหล่งแสงสำหรับการถ่ายสตูดิโอโดยเฉพาะก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆสำหรับการเล่นแสง 

 

 

Continue Reading

หนึ่งในเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้อง

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้อง

ห้ามฟอร์แมทเมมกล้อง หนึ่งในเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้อง

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้อง เรื่องของกล้องถ่ายรูปนั้นมันก็มีเรื่องยุ่งยากเยอะแยะมากมายจริงๆอยู่ แล้วหนึ่งในเรื่องโปรดที่จะทำให้ตากล้องงงกันหน่อย ก็คือเรื่องของเมมกล้อง เพราะมันมีเรื่องของเทคโนโลยีเต็มไปหมดเลย ทั้งแบบใหม่และแบบเก่า เล่นเอาหัวหมุน นี่ยังมีเรื่องของแบรนด์เมมกล้องแบบที่มีกันเกลือนตลาด แต่ละแบรนด์ก็ใช้คำศัพท์ที่แตกต่างกันออกไปอีก ตากล้องนั้นมีทั้งตากล้องยุคใหม่และยุคเก่า คนยุคใหม่ก็พอจะเข้าใจได้ง่ายอยู่หลอก

เพราะเพิ่มมาศึกษา แต่คนยุคเก่านี่สิ ก็เขาถ่ายรูปฟิล์มมายาวนาน ให้มาจับกล้องดิจิตอลที่มีเทคโนโลยีสูงๆ มันก็ลำบากเขาเหมือนกันนะ ต้องมาเรียนรู้อะไรต่างๆจากเมมอีก ถึงอย่างนั้นแล้วก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ก็ต้องศึกษาอยู่ดี เพราะถ้าเจอร้านขายอุปกรณ์กล้องต่างๆที่ไม่มีจรรยาบรรณแล้วล่ะก็ จะทำให้เสียเงินเสียทองไม่จบสิ้นแน่ๆ เรื่องของเมมนี้ก็เช่นกัน ช่างวุ่นวายจริงๆ

ในยุคมี่เทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ๆกันแบบวันต่อวัน เจ้าเมมกล้องนี้ก็เช่นกัน มันมีอะไรที่ต้องระวังอยู่ แต่พอบางครั้งเทคโนโลยีใหม่มา ก็อาจจะไม่ต้องระวังมันแล้วก็เป็นได้ อะไรทำนองนี้แหละ เมมกล้องนั้นมีความละเอียดอ่อนอย่างมากในเรื่องของความเร็ว ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของความจุนะ ความจุใครๆก็ทำได้ ใครๆก็ซื้อได้ มันต่างกันเพียงราคา แล้วความจุเยอะน้อยก็ไม่ค่อยต้องกังวลอะไร

เพราะมันก็พอกได้หลายอัน แต่สิ่งที่ส่งผลโดยตรงนั้นคือความเร็วในการเขียนและอ่าน ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้กล้องดีขนาดไหน ก็ทำให้เราถ่ายรูปได้ช้าอยู่ดีนะ และลองคิดดูเหล่าผู้ผลิตก็ผลิตออกมาอย่างมหาศาล เพราะแย่งกันขาย พอเทพโนโลยีใหม่ออกมา ของเก่าก็เกลือนตลาด ต้องลดราคาขายทิ้งไป แล้วตรงจุดนี้แหละที่จะโดนพ่อค้าหลอกขายกันเพราะความไม่รู้ถึงเทคโนโลยีของตากล้องบางกลุ่มนั้นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ระวังกันไว้ด้วย

ส่วนเรื่องของการฟอแมทเมมนั้น ก็เข้าใจกันผิดอยู่สองเรื่องใหญ่ๆ เพราะบางคนคิดว่าฟอแมทแล้วจะทำให้เมมเสียบ่อย จริงๆแล้วข้อนี้เข้าใจผิดกันมาอย่างยาวนาน เพราะมันไม่เคยมีแบบนั้นมาก่อน ยังไงก็ตามยิ่งฟอแมทยิ่งดี เพราะมันช่วยล้างอะไรที่ไม่สมควรอยู่ในเมมได้ แล้วสุดท้าย ที่เข้าใจผิดกันเยอะที่สุดคือ การฟอแมทเมมจะทำให้ข้อมูลการตั้งค่าต่างๆนั้นหายไป นั้นก็ไม่ใช่เลย มันต้องแยกก่อนนะ

กล้องเราจะจำทุกอย่างในหน่วยความจำของกล้อง ไม่ใช่เมม เพราะฉะนั้นเมมฟอแมทได้ แต่ กล้องบางรุ่นมีฟังชั่นพิเศษที่จะใส่ไว้ในเมม อันนั้นก็หายได้ ต้องเอามาแบกอัพในคอมไว้ก่อน เพียงแค่นั้น เอาเป็นว่า หาทางฟอแมทให้บ่อยๆ เพื่อรักษาอายุเมมไว้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  บาคาร่า sa gaming

Continue Reading

ใช้ขาตั้งกล้องแล้วไม่ต้องใช้กันสั่น

ใช้ขาตั้งกล้องแล้วไม่ต้องใช้กันสั่น ภาพต้องชัด หนึ่งในเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้อง

เริ่มด้วยการที่เราจะมาพูดถึงระบบกันสั่นว่ามีไว้ทำไม แน่นอนตามชื่อมัน มันเป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาในกล้องรุ่นใหม่ๆ ให้สามารถกันสั่นได้ คือช่วยเราได้ระดับหนึ่งแหละ อ้าว ก็มีคำถามเพิ่มขึ้นมาว่า แล้วถ้าเราใช้ขาตั้งกล้องก็ไม่ต้องใช้ระบบกันสั่นก็ได้นี่นา ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า มันเมคเซ็นมากๆที่จะคิดอย่างนั้นได้ ก็จริงๆอ่ะ เพราะว่าระบบกันสั่นไว้ช่วยแก้ปัญหามือเรา แล้วถ้าไม่ได้ใช้มือ ใช้ขาตั้งกล้องที่นิ่งมากๆอยู่แล้ว ก็ตามนั้นแหละ ใช่ครับ ต้องบอกเลยว่าเข้าใจกันถูกแล้วส่วนหนึ่ง ตามที่มันเมคเซ็นแบบนั้นเลย แบบว่าจะได้ไม่ต้องเปลื่องแบตด้วย เพราะระบบกันสั่นนี่มันก็ต้องการพลังงานเยอะอยู่นะ แต่นั้นแหละครับ อย่างที่บอก ถูกส่วนหนึ่ง แต่มันจะมีบางกรณีที่ ขาตั้งกล้องก็ยังช่วยได้ไม่พอเหมือนกัน เรามาดูกันว่าในกรณีใด

ครับอย่างที่บอก จะมีบางกรณีที่เราควรจะเข้าใจไว้ด้วยว่า มันเป็นกรณีที่ขาตั้งกล้องเอาไม่อยู่ ซึ่งส่วนมาแล้วจะเกิดขึ้นกับกล้องระบบ DSLR นั้นเอง หรือกล้องระบบเก่ายิ่งกว่านั้นพวกกล้องฟิล์ม และก็ยังกล้องพวกกล้องใหญ่ๆอย่างกล้อง medium format อีก พวกนี้ ถ้าเป็นระบบ SLR แล้วล่ะก็ แต่นอนว่าจะต้องมีบานพับกระจกกระแทกขึ้นลงเป็นปกติของระบบมันนั้นเอง ซึ่งแบบนี้จะทำให้เกิดการสั่นที่ตัวกล้องอย่างแน่นอน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความแรงของกระจกแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นด้วยแหละ บางตัวอาจจะเบาพอสมควร อย่างกล้องระบบ SLR ที่เป็น Medium format ละก็นะ อันนี้รุนแรงมากๆเลย ถ่ายที ยังกับมีอะไรกระแทกกันอย่างแรง จนมือสั่นเลยล่ะ เพราะฉะนั้นแล้วตรงจุดนี้ ตัวกันสั่นในกล้องก็ช่วยได้บ้าง แต่อย่างว่า ถ้ากล้องฟิล์ม รุ่นที่ยังไม่มีกันสั่นก็คงหมดหวังไป

อีกอย่างหนึ่ง นั้นก็คือการใช้เลนส์เทเล ที่เป็นระยะที่ไกลมากๆ แล้วถ้าแสงไม่ค่อยมีละก็ มีสิทธิ์ที่จะมีการโยกสูงมากๆ เพราะว่าระยะพวกนี้มันยาวมากๆ ในหลายๆครั้งกันสั่นจากตัวกล้องเองก็ยังช่วยไม่ไหวเลย บางสถานการณ์ก็ต้องใช้ทั้งกันสั่นกล้องและขาตั้งกล้องด้วยเลยจะยอดเยี่ยมมากๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าไม่ได้หวงเงินมาก ก็ซื้อแบตสำรองไว้แหละ ง่ายดี จะได้ไม่ได้ต้องเป็นห่วงเรื่องการปิดกันสั่น เปิดทิ้งไว้นั้นแหละ จะได้ไม่ต้องคิดมากว่าต้อนไหนปิดตอนไหนเปิดดี แต่หากอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเลนส์ อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องเลนส์

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub

Continue Reading

การสร้างสรรค์บนกำแพง 

การสร้างสรรค์บนกำแพง 

การสร้างสรรค์บนกำแพง  Graffiti หรือว่าผลงานแนว Street Art ที่มีการพ่นผนังมากมายอยู่ในตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าสถานที่รกร้างหรือสถานที่ที่มีชุมชนอยู่เป็นการแสดงความคิดเห็นระบายออกมาเป็นภาพวาดภาพเขียนตามฝาผนังต่างๆและที่สำคัญในปัจจุบันมีการสนับสนุนอย่างมาก

เพื่อให้ศิลปินเหล่านี้มีช่องทางในการทำมาหากินช่องทางในการทำมาหากินก็คือการที่มีคนเห็นผลงานเราแล้วมีการว่าจ้างให้ไปพ่นตามสถานที่ต่างๆเทคนิคต่างๆมีมากมายเช่นการพ่นสีกำแพงโดยใช้สเปรย์กระป๋องการผสมสีต่างๆที่เกิดจากฝุ่นของสีไปกระทบบนผนังต้องอาศัยทักษะการเรียนรู้และการฝึกฝนมาเป็นระยะเวลานานในการมองสีให้ออกและการร่างแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองการตัดเส้นทำให้ผลงานของตัวเองเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเหล่านี้เป็นเทคนิคที่สามารถเรียนรู้ได้โดยอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

หรือไม่จะเป็นการใช้สีทาบ้านที่มีกระป๋องเล็กและความทนทานในการสร้างสรรค์ผลงานออกมาไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยและต่างประเทศอาชีพนี้ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่วัยรุ่นหลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากโดยกลุ่มส่วนใหญ่ที่ดีเริ่มอันนี้จะเป็นกลุ่มนักเล่นสเก็ตสร้างอาณาเขตของตัวเองในการบ่งบอกว่าสถานที่ตรงนี้เป็นของกลุ่มไหนจะมีการสร้างสรรค์ผลงานออกมาแข่งกันและในการขยายอาณาเขตของตัวเองนั้นก็มีการวาดทับหรือสร้างสรรค์ผลงานโดยลบของคนอื่นออกในประเทศไทยไม่ใช่ว่ามีแต่การกีดกันเท่านั้น

การสร้างสรรค์ผลงานอันนี้ในจังหวัดเชียงใหม่มีการสนับสนุนและสร้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่รวมเหล่าวัยรุ่นที่มีความรักในช่องทางนี้เข้ามาร่วมแสดงผลงานต่างๆโดยทางหน่วยงานจะจัดสถานที่ไว้ให้แล้วก็คือกำแพงของอาคารต่างๆเพื่อให้เหล่าศิลปินได้แสดงผลงานของตัวเองและผู้เข้าชมก็จะมาดูในตอนที่ผลงานเหล่านั้นเสร็จใกล้ที่สุดที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่สร้างจุดที่เคยมีแต่ความว่างเปล่าให้กระตุ้นเศรษฐกิจตรงนั้นฟื้นคืนเป็นแหล่งเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่นี่คือทำให้ในจังหวัดเชียงใหม่มีความพัฒนาเป็นอย่างมาก

เพราะว่าโดนใจวัยรุ่นที่อาศัยอยู่แถวนั้นไม่จำเป็นต้องไปแอบสร้างสรรค์ผลงานตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นตึกร้างที่ผู้คนทิ้งเอาไว้หรือผู้รับเหมาสร้างไม่เสร็จ หรือแม้แต่สถานที่ที่ธนาคารได้ทำการยึดไปตั้งแต่ปี 40 ที่เกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตก และที่โด่งดังในกรุงเทพฯนะก็คือเสาร์ที่สร้างรถไฟฟ้ามีผู้ไปทำการสร้างสรรค์ผลงานเป็นอย่างมากหลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็นภาพที่เหมือนจริงเข้าไปสู่กำแพงหรือเสาขนาดใหญ่และภาพที่แสดงออกทางการเมืองทางสังคมเสียดสีต่างๆก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปนั่น

ก็เป็นสถานที่ใหม่ที่ผู้คนได้ไปถ่ายรูปการเกิดแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่บางครั้งจำเป็นต้องมีการกำหนดขอบเขต ในการทำงานศิลปะนี้ออกมาเพราะว่าบางครั้งอาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก็ได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ แต่อย่างที่รู้กันในปัจจุบันมีหน่วยงานหลายหน่วยงานภายยาวร่วมมือกับศิลปินเหล่านั้นเพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมายสู่ประชาชนให้ได้รับชมกันและสร้างศิลปินรุ่นใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง 

 

สนับสนุนเรื่องราวเหล่านี้โดย   เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Continue Reading