ข้อมูลประวัติ การก่อสร้างนครวัด ประเทศกัมพูชา 

          ข้อมูลประวัติ การก่อสร้างนครวัด เชื่อว่าเมื่อพูดถึงประเทศกัมพูชาและมีการพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นโบราณสถานในประเทศกัมพูชาหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะต้องนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ

ก็คือนครวัดนั่นเองเนื่องจากวัดนครวัดนั้นเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องของความสวยงามของสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างและที่สำคัญยังเป็นสถานที่ที่เป็นสถานที่โบราณมีอายุเก่าแก่มานานหลายร้อยปี

           อย่างไรก็ตามผู้คนต่างพากันสนใจที่จะไปเยี่ยมชมความงดงามของนครวัดแล้วอยากรู้ถึงประวัติความเป็นมาของการก่อสร้างนครวัดรวมถึงรายละเอียดของการก่อสร้างซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของการก่อสร้างนครวัดขึ้นมาสำหรับคนที่อาจจะอยากศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานแต่ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปด้วยตนเองก็สามารถที่จะรับทราบข้อมูลตลาดแบบคร่าวๆในการก่อสร้างนครวัดได้เลย 

          สำหรับนครวัดหรืออีกชื่อที่ประเทศฝรั่งเศสได้ทำการตั้งชื่อให้  ซึ่งชื่อดังกล่าวนั้น เรียกว่าอังกอร์วัด เป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานที่เรียกรวมกันว่าเมืองพระนคร   โดยมีนครฐมตั้งอยู่คู่กันที่เมืองเสียมราฐ หรือที่ชาวกัมพูชา จะมีการออกเสียงเรียกว่าเมืองเสียมเรียบ  

          สำหรับประวัติการก่อสร้างนครวัด นั้นว่ากันว่าตามประวัติแล้วมีการก่อสร้างขึ้นมาในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2  ซึ่งในตอนนั้น พระองค์ได้ทำการปกครองอาณาจักรขอม ซึ่งตรงกับช่วงพุทธศักราช 1656 -1693  

          พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2  ทรงมีความต้องการที่จะสร้างปราสาทนครวัดเป็นเทวาลัยบูชาและให้เป็นที่เก็บพระศพของพระองค์  ดังนั้น    ทางเข้า ufabet มือ ถือ    จะเห็นได้ว่านครวัดจึงมีความแตกต่างกับประสาท อื่นๆ ตรงที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศของผู้ตาย แทนที่จะเป็นทางทิศตะวันออก

            กว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จจนกลายมาเป็นปราสาทนครวัดต้องใช้หินปริมาตรหลายล้านลูกบาศก์เมตรมีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลักใช้แรงงานช้างนับหมื่นเชือก รวมถึงแรงงานคนนับแสนคนและชักลากดินมาจากเขาพนมกุเลน  ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตรมาสร้างปราสาทนครวัด

          สำหรับตัวปราสาทนั้นจะมีเสาประกอบกันรวมทั้งหมดแล้วมากถึง 1800 ต้น ซึ่งเสาแต่ละต้นนั้นมีน้ำหนักมากกว่าต้นละ 80 ตันและนครวัดไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่นี่เป็นราชธานีอีกด้วย ดังนั้นอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลมีแผนผังที่ถือเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของปราสาทขอม มีปราสาท5 หลังตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติฮินดู ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโลกและจักรวาล

         นอกจากนี้ยังมีการสร้างคูน้ำล้อมรอบตามแบบมหาสมุทรล้อมเขาพระสุเมรุ กำแพงชั้นนอกรอบประสาทเต็มไปด้วยงานสลักหินมีภาพเหล้าวรรณคดีรามายณะรูปแกะสลักที่มีชื่อที่สุดคือรูปเทวดากับอสูรกวนเศียรสมุทรด้วยเขาพระสุเมรุรวมถึงนางอัปสรหรือนางอัปสราจำนวน 1635 นางที่ทั้งหมดทรงเครื่องและทรงผมไม่ซ้ำกันย้ำว่าทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เหลือรอดมาเท่านั้น

Continue Reading

การก่อตั้งอาณานิคมของอังกฤษในแผ่นดินอเมริกา

สงครามประกาศเอกราชของเมริกาเกิดขึ้นในช่วงปี คริสต์ศักราช1775-1783 เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิอังกฤษกับพลเมืองที่อาศัยอยู่ในอาณานิคมเก่าทั้ง13แห่งของอังกฤษในทวีปอเมริกาเหนือแรกเริ่มเดิมทีอเมริกาเป็นแผ่นดินที่อยู่อาศัยของชาวอินเดียแดง

ซึ่งเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ประเทศอังกฤษเริ่มอพยพผู้คนไปสร้างอาณานิคมในอเมริกาเหนือตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่17ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจแบบทุนนิยมของอังกฤษเจริญก้าวหน้า เมื่อเข้าไปยึดดินแดนในอเมริกาเหนือพวกนายทุนรายใหญ่ของอังกฤษก็ตั้งบริษัทเพื่อแสวหาผลประโยชน์

อาณานิคมของอังกฤษในแผ่นดินอเมริกา ในดินแดนอาณานิคมโดยได้รับสำปทานสิทธิจากกษัตริย์แห่งอังกฤษเนื่องจากในเวลานั้นแผ่นดินของอเมริกาถือเป็นสมบัติของกษัตริย์อังกฤษนับตั้งแต่ถึงปีคริสต์ศักราช1732 บรรดาผู้สร้างอาณานิคมก็ได้ก่อตั้งอาณานิคมอังกฤษในแผ่นดินอเมริการวมได้13แห่ง

การสร้างอาณานิคมแห่งอังกฤษได้ทวีปอเมริกาเหนือทำให้มีชาวยุโรปหลายเชื้อชาติอพยพหลั่งไหลเข้าสู่แผ่นดินอเมริกาเช่นชาวสก๊อต ชาวไอแลนด์ ชาวฮอลแลนด์ ชาวฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่ง เยอรมัน แต่จำนวนผู้อพยพมากที่สุดเห็นจะเป็นอังกฤษที่อยู่ในชนชั้นผู้ใช้แรงงานคือช่างฝีมือและชาวนา

บุคคลเหล่านี้ล้วนประสบปัญหาต่างๆจากความวุ่นวายและสงครามในประเทศอังกฤษจึงคิดมาแสวงหาชีวิตใหม่และเสรีภาพบนแผ่นดินอเมริกาลักษณะการปกครองโดยชนชั้นสูงและนโยบายจากเมืองแม่คือจักรวรรดิอังกฤษก็จะทำให้พวกเขาค่อยๆรู้สึกและคิดขึ้นมาได้ว่า

ซึ่งที่เคยหวังเอาไว้คงจะเป็นไปได้ยากหากยังคงติดอยู่ในระบบที่ชนชั้นแรงงานถูกชนชั้นปกครองกดขี่อยู่เช่นนี้ดังนั้นในใจของใครหลายๆคนจึงเริ่มหาอิสระภาพขึ้นมาหลังสงคราม7ปีระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษเสร็จสิ้นลงอังกฤษพบว่าฐานะทางการเงินของประเทศอยู่ในภาวะย่ำแย่

จากการใช้จ่ายมากมายที่หมดไปกับสงครามจึงคิดหาทางเพิ่มรายได้    ufabet   คลังด้วยการจัดเก็บภาษีประชาชนในอาณานิคมในปีคริสต์ศักราช1764ทางจักรวรรดิอังกฤษประกาศให้ใช้ภาษีน้ำตาลในอาณานิคมอเมริกาเหนือต่อมาในเดือนมีนาคมปีคริสต์ศักราช1765 

จักรวรรดิอังกฤษจะประกาศใช้ภาษีอากรสแต้มโดยกำหนดว่าสิ่งพิมพ์ทุกชนิดต้องตอกสแต้มและเพื่อให้การบังคับกฎหมายภาษีอากรสแต้มเป็นไปได้อย่างราบรื่นจักรวรรดิอังกฤษจึงออกกฎหมายตั้งทัพตามมา ซึ่งเป็นกฎหมายที่อนุญาตให้กองทัพอังกฤษประจำอาณานิคมอเมริกาเหนือและยังมีการคว่ำบาตรสินค้าอังกฤษอีกด้วย

สามารถจัดตั้งทัพและใช้อาคารสาธารณได้ชาวอาณานิคมรู้สึกไม่พอใจเมืองต้นกำหนดตั้งแต่การออกภาษีน้ำตาลดังนั้นเมื่อเก็บภาษีอากรสแต้มออกมาบังคับใช้ก็ทำให้สิ่งที่พวกเขาพยายามเก็บเอาไว้ในใจถึงคราวระเบิดออกมาประชาชนมากมายต่างพากันมาชุมนุมการคัดค้านการออกภาษีที่ขูดรีดกดขี่นี้

Continue Reading

การประกาศเอกราชของอเมริกา

การสู้รบครั้งแรกในสงครามประกาศเอกราชของอเมริกาจึงถือว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่นี่ในวันที่19เมษายน ปีคริสต์ศักราช1775 ในขณะที่ชาวบ้านได้พากันจัดตั้งกลุ่มกองกำลังเพื่อตอบโต้กองทัพอังกฤษผู้แทนจาก13 อาณานิคม ก็ได้มารวมตัวกันประชุมสภาแห่งแผ่นดินอาณานิคม

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเห็นชอบให้เปิดรับสมัครทหารอาสาพิมพ์ธนาบัตรเพื่อซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์

การประกาศเอกราชของอเมริกา จากต่างประเทศจัดตั้งกองทัพของแผ่นดินอาณานิคมและได้แต่งตั้ง จอร์จวอชิงตัน ให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดต่อตามเดือนมีนาคมปี คริสต์ศักราช1776 พระเจ้าาจอร์จที่3 แห่งอังกฤษยังทรงอนุมติให้มีการว่าจ้างทหารรับจ้างชาวเยอรมันไปปราบปรามชาวอาณานิคมอีกด้วย

เรื่องนี้สร้างความตกใจและโกรธแค้นให้แก่ชาวอาณานิคมยิ่งกว่าครั้งใดๆเป็นเหตุให้อาณานิคมทั้ง13แห่งต้องรีบส่งผู้แทนมาประชุมกันอีกครั้งที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เวลานี้ทุกคนต่างตระหนักแล้วว่าสงครามเป็นสิ่งที่เรียงไม่ได้เมื่อพิจารณาร่วมกันแล้วก็มีความเห็นว่าชาวอาณานิคมที่ผนึกกำลังเข้าด้วยกันนี้ล้วนแต่เป็นรัฐอิสระ

ดังนั้นก็สมควรได้รับสิทธิอันชอบทำอย่างแทนจริงในเวลาเดียวกันคณะกรรมาซึ่งประกอบด้วย5สมาชิกก็ได้เขียนคำประกาศเอกราช ซึ่งเป็นการประกาศให้ชาวโลกได้รับทราบว่าอเมริกามีความเป็นเอกราชและไม่ขึ้นกับอังกฤษอีกต่อไปบรรดาตัวแทนจาก13อาณานิคมจึงร่วมกันลงลงสัตยาบันเห็นชอบการประกาศอิสรระภาพในวันที่4กรกฎาคม ปีคริสต์ศักราช1776

นับจากนั้นเป็นต้นมา วันที่ 4 กรกฎาคม ของทุกปีจึงถือว่าเป็นวันชาติของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีคำประกาศเอกราชไปแล้วแต่ฝ่ายอาณานิคมก็รู้ดีว่าการได้มาซึ่งเอกราชอย่างแท้จริงนั้นไม่อาจพึ่งพาเพียงถอยคำในแผ่นกระดาษได้ สงครามและการเสียเลือดครั้งใหญ่ย่อมต้องเกิดขึ้น

ฝรั่งเศสรู้สึกสนใจในการประกาศเอกราชของอเมริกา เดือนกุมภาพันธุ์ ปีคริสต์ศักราช 1778 ฝรั่งเศสได้รับรองเอกราชของอเมริกาอย่างเป็นอย่างการพร้อมกับลงนามในสนธิสัญญาทางทหารอเมริกา โดยฝรั่งเศสจะมอบความช่วยเหลือด้านกองทัพเรือและการเงิน 

ในขระที่อเมริกาจะช่วยรักษาความมั่นคงของอาณานิคมฝรั่งเศสในบริเวณใกล้เคียงให้  ufabet เว็บตรง    โดยในเดือน ธันวาคม ปีคริสต์ศักราช1778 ทหารอังกฤษสามารถยึดเมืองวาวานา ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของรัฐจอร์เจียได้ตอนมาในเดือนพฤภาคมปีคริสต์ศักราช1870 อังกฤษได้ยึดเมืองชาร์ลตันเมืองท่าของรัฐเซาท์แคโรไลนา 

อย่างไรก็ตามมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต่อต้านอังกฤษอย่างที่สุดพวกเขาลุกขึ้นมาจับอาวุธและพากันปกป้องครอบครัวและถิ่นฐานของพวกเขาเดือนตุลาคมปีคริสต์ศักราช1870 ทหารที่จัดตั้งกันเองอยู่ในพื้นที่สามารถตีกองทัพทหารของอังกฤษให้แตกไปยับเยิน

Continue Reading

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย  จังหวัดลำพูน 

        พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย สำหรับใครที่เคยเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศพม่าและอาจจะมีโอกาสเคยได้มีการไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศพม่าอย่างเช่นพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง

ซึ่งเป็นสถานสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศพม่า  เชื่อว่าหลายคนที่เคยเดินทางไปเที่ยวจะต้องติดใจในความสวยงามของพระธาตุเจดีย์ชเวดากองอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามในประเทศไทยเองนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูนซึ่งได้มีการจำลองลักษณะของเจดีย์มาจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองเอาไว้ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดลำพูน

แล้วมากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสวยงามมีความคล้ายคลึงของประเทศพม่าได้จากในประเทศไทยที่จังหวัดลำพูน  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ    โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางข้ามไปถึงประเทศพม่ากันเลยทีเดียวโดยวัดดังกล่าวนั้นมีชื่อว่าวัดพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนั่นเอง

         สำหรับวัดมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้เป็นวัดเก่าแก่โบราณที่ชาวอำเภอลี้ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากซึ่งถ้าเกิดว่าคุณเดินทางมาที่อำเภอลี้และต้องการที่จะเดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยมีคนขับรถมายังไม่ทันเข้าวัดคุณก็จะมองเห็นความโดดเด่นเหลืองอร่ามตั้งแต่ไกลของตัวเองเจดีย์แล้ว

ซึ่งบอกได้เลยว่ามีความงดงามและมีความคล้ายคลึงกับวัดมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเรียกได้ว่าถ้าหากใครเคยไปเห็นนั้นแทบจะแยกไม่ออกทั้งสองสถานที่เลย

         สำหรับพระเจดีย์ภายในวัดแห่งนี้นั้นผู้ที่ริเริ่มที่จะมีการก่อสร้างเจดีย์ที่มีความงดงามแบบนี้ขึ้นมานั่นก็คือพระครูบาวงศ์และคณะลูกศิษย์ของพระครูนั่นเองที่มีการเรี่ยรายเงินรวบรวมเงินด้วยจิตศรัทธาอันแรงกล้าที่อยากจะสร้างวัดนี้รวมถึงเจดีย์ที่มีความสวยงามนี้ขึ้นมาและมีการออกแบบให้มีความคล้ายคลึงเป็นลักษณะของการจำลองของวัดมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองหลังจากนั้นก็ได้มีการรวบรวมเงินในการก่อสร้างขึ้นมาโดยเหตุผลในการก่อสร้างวัดพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยแห่งนี้นั่นก็เพราะว่าพระครูบาวงศ์และบรรดาลูกศิษย์ของพระครูบาวงศ์นั้นอยากจะใช้สิ่งก่อสร้างนี้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในวาระที่พระองค์นั้นสามารถครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

          ซึ่งเป็นการสร้างเพื่อเป็นการน้อมเกล้าน้อมถวายเพื่อเป็นพระราชกุศลให้กับรัชกาลที่ 9 นั่นเองอย่างไรก็ตามด้วยความงดงามของพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยแห่งนี้นั่นเองที่ทำให้หลายคนนั้นมักเดินทางมาเที่ยวเพื่อมีการชมความงดงามมาถ่ายรูปองค์พระธาตุจำลองที่มีความคล้ายคลึงกับของประเทศพม่านอกจากนี้ยังมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดอีกด้วย 

Continue Reading

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย 

       สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยซึ่งเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญและมีความเก่าแก่โบราณเป็นอย่างมากเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดซึ่งสถานที่แห่งนี้ถูกจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจดทะเบียนขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 2534

เนื่องจากว่าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยแห่งนี้นั้นเป็นศาสนสถานที่บ่งบอกว่าในสมัยก่อนประวัติศาสตร์นั้น  บรรพบุรุษของเรามีชีวิตความเป็นมาอย่างไรบ้าง 

       สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัยมีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 15.14 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวจะเห็นได้ว่าภายในพื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยนั้นมีโบราณสถานเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดซึ่งมีการสำรวจพบว่ามีสูงถึง 215 แห่งเลยทีเดียว 

        อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อย่างไรก็ตามสำหรับโบราณสถานที่มีการระบุว่ามีถึง 215 แห่งในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยนั้นปรากฏว่าเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ที่มีความเด่นให้เห็นโดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปสำรวจเลยซึ่งหลายแห่งนั้นสร้างขึ้นมาจากศิลาแลงนอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่เป็นโบราณสถานที่มีเจ้าหน้าที่สำรวจค้นพบประมาณ 240 แห่งซึ่งโบราณสถานส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัดวาอารามที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงปัจจุบันนี้และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัยอีกด้วยซึ่งได้แก่วัดช้างล้อม

        นอกจากนี้ยังมีวัดเจดีย์เจ็ดแถว   วัดสวนแก้วอุทยานน้อยและวัดสวนแก้วอุทยานใหญ่รวมถึงวัดสุวรรณคีรีและวัดนางพญานอกจากนี้ยังมีวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและที่ขาดไม่ได้เลยเพราะเป็นโบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดสุโขทัยนั่นก็คือศาลหลักเมืองนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามหากใครเคยเดินทางไปที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยจะเห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้นั้นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอยู่ห่างออกจากตัวเมืองเป็นอย่างมากซึ่งจะอยู่ท่ามกลางป่าเขาทำให้บรรยากาศเงียบสงบและเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหย่อนใจมาชมความสวยงามทางธรรมชาติและที่นี่นักท่องเที่ยวยังสามารถศึกษาประวัติความเป็นมาของคนในยุคสมัยโบราณวิถีชีวิตของคนสมัยโบราณรวมถึงวัดวาอารามที่มีความเก่าแก่แต่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ 

         สำหรับใครที่มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดสุโขทัยแนะนำว่าควรหาเวลาแวะไปเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเพราะเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัยและยังเป็นศาสนสถานรวมถึงโบราณสถานที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว 

        อย่างไรก็ตามหากใครที่สนใจจะเดินทางไปเยี่ยมชมความงดงามของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยแต่อาจจะไม่เคยเดินทางไปก็สามารถค้นหาเส้นทางการเดินทางได้จากทาง Google 

 

สนับสนุนโดย  ufabet เว็บตรง

Continue Reading

พิธีปิดฮู้เจ้าพ่อเขาใหญ่   เกาะสีชังจังหวัดชลบุรี 

          สำหรับใครที่เคยมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่เกาะสีชังจังหวัดชลบุรี   ในช่วงเทศกาลใกล้กับวันตรุษจีนในแต่ละปีจะเห็นได้ว่าที่เกาะสีชัง

นั้นจะมีประเพณีหนึ่งที่ทำขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยคนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนหรือแม้แต่สิงคโปร์รวมถึงไต้หวันและฮ่องกงมาเลเซียก็จะมาร่วมกิจกรรมประเพณีนี้ด้วยเช่นเดียวกันโดยประเพณีดังกล่าวนั้นก็คือพิธีปิดฮู้เจ้าพ่อเขาใหญ่นั่นเอง 

    สำหรับพิธีนี้มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณแล้วและจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังทำพิธีนี้กันอยู่ซึ่งพิธีนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในยุคที่ชาวจีนมาค้าขายกับประเทศไทยโดยมีการมาค้าขายผ่านทางเกาะสีชังเนื่องจากว่าบริเวณเกาะสีชังนั้นมีภูมิประเทศที่ดีเหมาะสมแก่การเดินเรือมาขนถ่ายสินค้าขึ้นบนบกดังนั้นถึงแม้ว่าที่เกาะสีชังจะไม่ใช่ท่าเทียบเรือแต่ก็มีชาวจีนชาวต่างชาติมาค้าขายกันอยู่บ่อยครั้งทำให้เกาะสีชังนั้นเป็นที่คึกคักเรียกได้ว่าเป็นย่านการค้าขายที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไทยมาในตั้งแต่สมัยอดีตเลยก็ว่าได้

         อย่างไรก็ตามมีการเล่าขานมาตั้งมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่ามีพ่อค้าชาวจีนล่องเรือสำเภามาตามทะเลแล้วมาค้าขายที่บริเวณเกาะสีชัง

อยู่มาวันหนึ่งเป็นช่วงเวลาพบค่ำพ่อค้าชาวจีนคนดังกล่าวได้มีการล่องเรือผ่านไปแถวบริเวณภูเขาหัวเกาะสีชังแล้วเห็นว่าทางบริเวณดังกล่าวนั้นมีแสงระยิบระยับสว่างไสวงดงามตาอยู่ด้วยความสงสัยเขาจึงได้เข้าไปสำรวจดูก็พบว่าตรงจุดที่เขาเห็นแสงระยิบระยับนั้นเป็นถ้ำขนาดใหญ่เมื่อเดินเข้าไปภายในถ้ำก็พบหินรูปร่างแปลกประหลาด  สมัคร sbobet โดยตรง    มีลักษณะคล้ายกับคนหรือพระพุทธรูปซึ่งปัจจุบันผู้คนเชื่อกันว่านั่นคือเห็นรูปของเจ้าพ่อเขาใหญ่และปัจจุบันบริเวณที่เจอท่านนั้นก็คือเขาคยาศิระนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามตามตำนานเล่ามาว่าหลังจากพ่อค้าชาวจีนเห็นดังนั้นก็ได้มีการขอพรนำเข้าของมาเซ่นไหว้และร้องขอให้การค้าขายในประสบความสำเร็จร่ำรวยเงินทองซึ่งหลังจากที่ขอไปแล้วพบว่าประสบความสำเร็จตามที่ขอทำให้ชื่อเสียงของเจ้าพ่อเขาใหญ่นะโด่งดังมีผู้คนมาขอพรกันเป็นจำนวนมากและเกิดเป็นแรงศรัทธาอย่างมากจนในที่สุดก็มีลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือเจ้าพ่อเขาใหญ่จนกลายมาเป็นว่าลูกศิษย์นั้นได้รวมตัวกันสร้างศาลขึ้นมาตรงบริเวณหน้าปากถ้ำโดยศาลนี้ถูกสร้างขึ้นมาช่วงประมาณปีพ.ศ 2435 

        หลังจากนั้นในทุกๆปีก่อนเทศกาลวันตรุษจีนประมาณ 2 สัปดาห์บรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็จะมารวมตัวกันที่เกาะสีชังแห่งนี้และมีการจัดเทศกาลไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นซึ่งจะมีผู้คนมาสักการะบูชาเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นจำนวนมากรวมทั้งนักท่องเที่ยวก็เดินทางมาเที่ยวและมากราบไหว้ขอพรเจ้าพ่อเขาใหญ่เช่นเดียวกัน

Continue Reading

การปกครองของราชวงศ์ชิง และ เผ่าแมนจู

การปกครองของราชวงศ์ชิง และ เผ่าแมนจู ก่อนที่จีนจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจีนเคยมีกษัตริย์พรรดิในราชวงศ์ต่างๆทั้งที่เป็นราชวงศ์ของจีนฮั่นแมงโกและแมนจูพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปกครองผ่านการเวลาอันยาวนานทั้งรุ่งเรืองและเสือมถอยราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรจีนคือราชวงศ์ชิงเป็นพวกแมนจู

ในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ชิงจีนต้องไปปะทะกับกระแสการเปลี่ยนแปลงจากภายในและภายนอกความเปลี่ยนแปลงภาย

ในคือความแตกแยกในหมู่ชาวจีนตลอดจนค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปในหมู่คนจีนที่เป็นยาชนรุ่นใหม่รวมถึงคนจีนยากจนที่ถูกกดขี่ให้ต้องมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก

คนเหล่านี้มองว่าราชวงศ์ชิงคือมะเร็งร้ายทำลายจีนราชวงศ์ชิงสมควรถูกโค่นล้มเพื่อการปกครองแบบใหม่อันทันสมัยเทียบเท่าอรัญประเทศอื่นๆเพื่อความรุ่งเรืองผาสุขของจีนด้วยความยิ่งใหญ่และเกรียงไกรของจีนจึงเป็นเหมือนดาบสองคมเพราะในสายตาของอรัญประเทศทั้งหลายนั้นจีนเสมือนขุมทองที่น่าเข้ามาครอบครอง

ประวัติชีวิตองค์สุดท้ายของจีนนั้นเข้มข้นมีสสีสันมากเราจะได้เรียนรู้ว่าบางทีชีวิตของคนเราอาจจะกำหนดเองไม่ได้เพราะมีปัจจัยภายนอกอื่นๆมาบังคับให้เป็นเช่นนั้น

และเป็นอำนาจที่ไม่อาจขัดขืนได้สุดท้ายชีวิตก็ต้องจบลงด้วยความเศร้าไม่ว่าจะเป็นสงครามภายในประเทศที่ชาวจีนต้องเข้ามาห้ำหั่นและฆ่าฟันกันเองหรือแม้กระทั้งสงครามนักล่าอาณานิคมตะวันตกและซ้ำร้ายยังถูกรุกรานจากญี่ปุ่นไปพร้อมๆกัน

ราชวงศ์ชิงที่หลายๆคนจะรู้จักในชื่อราชวงศ์แมนจูนั้นได้ทำการปกครองแผ่นดินจีนต่อจากราชวงศ์หมิงในช่วงที่เกิดจลาจลในการเมืองและเสถียรภาพชาวแมนจูซึ่งเป็นกลุ่มเล่ร่อนทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนจึงถือโอกาสเข้าบุกยึดกรุงปักกิ่งที่เป็นราชถานีของราชวงศ์หมิงและได้สถาปนาอาณาจักรต้าชิงขึ้นและเป็นราชวงศ์สุดท้ายของประเทศจีน

เมื่อราชวงศ์จีนปกครองอาณาจักรจีนจักรพรรดิชิงทรงออกกฎบังคับให้ชาวฮั่นทุกคนต้องไว้ผมเปียและสวมใส่เสื้อผ้าอย่างชาวแมนจูเพื่อเป็นการแสดงความเคารพและภักดีต่อราชวงศ์ชิงชายชาวฮั่นทุกคนต้องโกนผมครึ่งศรีษะและหนวดเคราต้องผูกผมด้านท้ายเป็นหางเปียยาว

โดยในกฎนี้ได้ขัดแย้งกับประเพณีปฏิบัติเดิมของชาวฮั่นที่ห้ามตัดผมชาวจีนทั่วปประเทศต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีทางเลือกมิเช่นนั้นจะถูกตัดหัวในประวัติศาสตร์จีนปรากฎว่ามีคนกลุ่มน้อยตั้งราชวงศ์ปกครองแผ่นดินจีนสองราชวงศ์นั่นก็คือราชวงหยวนของเผ่ามองโกและราชวงศ์ชิงของเผ่าแมนจู ราชวงศ์หยวนถึงแม้จะเก่งกาจมีกำลังทหารและอาวุธที่น่าเกรงขามแต่ไม่มีความรู้ด้านการปกครองจึงปกครองแผ่นดินจีนได้เพียง90ปีเศษก็ล่มสลายไป

 

สนับสนุนโดย    สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

Continue Reading

ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับพ่อมด

        ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับพ่อมด เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าตำนานที่มีมาแต่โบราณกาลเกี่ยวกับพ่อมดหรือแม่มดกันมาบ้างซึ่งบางคนนั้นก็ชื่อว่าตำนานเหล่านี้นั้นมีอยู่จริงแต่บางคนก็มองว่าตำนานเหล่านี้เป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นมาให้เป็นสีสันอย่างไรก็ตามในต่างประเทศนั้นตำนานเกี่ยวกับพ่อมดแม่มดนั้นมียุครุ่งเรืองอยู่ยุคหนึ่งซึ่งเป็นยุคที่มีการพูดถึงพ่อมดแม่มดกันเป็นอย่างมากและเป็นยุคที่มีการหาทางกำจัดพ่อมดแม่มดกันมากเช่นเดียวกันสำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับตำนานพ่อมดอยู่สองคนนั่นก็คือพ่อมดแห่งเมอร์ลินและพ่อมดแห่ง Apollonius of Tyana มาดูกันว่ารายละเอียดของตำนานทั้งสองพ่อมดนี้มีอย่างไรบ้าง 

            ตำนานพ่อมดเมอร์ลิน

สำหรับตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับพ่อมดแห่งเมอร์ลินนั้นเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทพนิยายต่างๆนั้นมักจะมีการพูดถึงพ่อมดเมอร์ลินกันเป็นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับ เมอร์ลิน นั้นเป็นที่รู้จักในฐานะที่ปรึกษาคนสำคัญของกษัตริย์อาเธอร์แห่งประเทศอังกฤษซึ่งเป็นนักเวทย์มนต์หรือพ่อมดที่มีอำนาจเป็นอย่างมากและเป็นผู้ครอบครองดาบวิเศษ excalibur พาเข้าพื้นที่ได้รับการยอมรับถูกปรับขึ้นครั้งแรก

โดยการเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ผู้เป็นพ่อของกษัตริย์อาเธอร์ในปี 1136 และยังเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการขนส่งสินค้าจากไอร์แลนด์มายังประเทศอังกฤษและเรื่องราวของเมอร์ลินในภายหลังมักจะไปปรากฏอยู่ในงานเขียนวรรณกรรมและบทกวีตามตำนานเล่าว่าเมื่อเล่นเป็นผู้วางกำแพงเวทมนต์ ล้อมรอบเกาะอังกฤษเพื่อคุ้มครองอาณาจักรอังกฤษปกป้องจากเหล่าผู้การจากอีกฟากโพ้นทะเลและปีศาจร้าย 

   ตำนานพ่อมด Apollonius of Tyana 

           สำหรับตำนานของ  Apollonius of Tyanaนั้นว่ากันว่าเขา  เป็นนักปรัชญาชาวกรีกตามตำนานกล่าวว่าเขามีชีวิตอยู่ในยุคเดียวกันกับพระเยซูเขาสามารถพูดและเข้าใจได้ในทุกภาษาแม้แต่การพูดคุยกับเหล่าสรรพสัตว์ก็ตามเขาสามารถล่วงรู้ความคิดและสติ ความคิดและชะตากรรมของผู้คนได้และยังมีความสามารถในการพูดโน้มน้าวผู้คนอีกด้วยถึงแม้จะมีฐานะร่ำรวยแต่เขาก็ยังช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้วยการบริจาคทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ

โดยการใช้เวทมนตร์เพื่อช่วยเหลือผู้คนผลงานโดดเด่นของมนุษย์ก็คือการทำนายการเสียชีวิตของโดม Indian จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันได้อย่างถูกต้องตามตำนานได้บันทึกการมีชีวิตของมนุษย์ที่มีชีวิตเกือบร้อยปีและได้หายตัวไปอย่างลึกลับโดยไม่มีการบันทึกการเสียชีวิตของเขาแบบชัดเจน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บตรง

Continue Reading

ประวัติกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ 

           เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ฟังปู่ย่าตายายเล่านิทานเรื่องหนึ่งซึ่งมีการตั้งชื่อนิทานเรื่องดังกล่าวว่ากล่องข้าวน้อยฆ่าแม่โดยเรื่องราวนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดในภาคอีสานโดยปัจจุบันนั้นยังมีหลักฐานให้เห็นถุงเจดีย์ซึ่งผู้เป็นโรคนั้นได้มีการสร้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ที่ล่วงลับจากฝีมือของตนเอง

        สำหรับการทำงานและประวัติของกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่นั้นว่ากันว่าแต่เดิมนั้นแม่ชรามีอาชีพทำนาอาศัยอยู่กับลูกชายซึ่งทุกวันลูกชายจะต้องมีการออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเวลา 05:00 น โดยแม่จะอยู่บ้านเพื่อค้นหาอาหารหลังจากนั้นก็จะนำอาหารไปให้ลูกกินที่ท้องนาอย่างไรก็ตามอยู่มาวันหนึ่งปรากฏว่าแม่ที่ชรานั้นไม่ค่อยสบายจึงตื่นสายกว่าจะหุงหาอาหารเสร็จก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วส่งลูกชายที่ออกไปไถนาตั้งแต่ 5:00 น นั้นก็หิวข้าวรอแม่ให้เอาอาหารมาให้แม่ก็ไม่มาสักทีรอไปเรื่อยๆจนเริ่มโมโหจนไม่พอใจเป็นอย่างมาก 

        อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงทุ่งนาก็รีบหาอาหารจัดสำรับให้ลูกชายกินทันทีแต่ลูกชายเมื่อเห็นอาหารว่ามีค่าเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้นก็ทำให้พอให้พอใจและกดผู้เป็นแม่เป็นอย่างมากโดยมองว่าค่านิดหน่อยนั้นไม่พอที่จะทำให้ตนเองกินแล้วอิ่มอย่างแน่นอนจึงได้ต่อว่าหน้าไปซึ่งผู้เป็นแม่เองก็ยืนยันว่ามีการห่อข้าวมาเยอะกว่าปกติแล้วให้ลองกินดูก่อนแต่ด้วยความที่โมโหหิวทำให้ลูกชายนั้นทั้งมือใช้ไม้คานตีไปพี่ร่างกายของผู้เป็นแม่อยู่หลายครั้งจนผู้เป็นแม่ที่แก่ชรามากแล้วสลบไป

          หลังจากนั้นลูกชายก็หันมากินข้าวที่ผู้เป็นแม่เตรียมไว้ให้ซึ่งกินเท่าไหร่ก็กินไม่หมดสักทีจนอิ่มหลังจากกินอิ่มเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกชายจึงดูผู้เป็นแม่เพราะเริ่มรู้สึกผิดว่าทำร้ายร่างกายแม่โดยแม่หาอาหารมาให้เยอะแต่ตนเองนั้นหิวจนตาลายอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าลูกชายจะพยายามปลุกมากแค่ไหนแต่ผู้เป็นแม่ก็ไม่ฟื้นขึ้นมาเมื่อนำนิ้วไปยังบริเวณจมูกดูก็พบว่าผู้เป็นแม่นะเสียชีวิตแล้วจึงรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตนเองเป็นอย่างมากดังนั้นผู้เป็นลูกชายจึงได้สร้างเจดีย์อยู่กลางทุ่งนาเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและนึกถึงผู้เป็นแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว

        ประวัติกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่   เรื่องราวดังกล่าวปู่ย่าตายายนำมาเล่าให้ลูกหลานของตนเองฟังก่อนนอนเพื่อให้ลูกหลานของตนเองนั้นได้รู้คุณค่ารู้ถึงความรักของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูกและเป็นการสอนเด็กๆให้รู้จักอดทนไม่ติดทนไปก่อนไข้และไม่โวยวายเพราะถ้าหากลูกชายของหญิงชราลองกินข้าวดูก็จะรู้ว่าข้าวที่แม่เตรียมมาให้นั้นเยอะแล้วแต่เนื่องจากว่าไม่รู้จักที่จะลองกินดูก่อนและเอาแต่โวยวายจึงได้พังทำร้ายร่างกายแม่จนตายนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    sa gaming เครดิตฟรี50

Continue Reading